วันอาทิตย์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2553

การออกแบบการเรียนรู้แบบ Backward Design ชั้นอนุบาล 1

ตามนี้เลย http://gotoknow.org/blog/nedsai/278305

ผนการจัดประสบการณ์กิจกรรมการเคลื่อนไหวและจังหวะ ชั้นอนุบาลปีที่ 1 สัปดาห์ที่ 10

สาระการเรียนรู้บุคคลและสถานที่แวดล้อมเด็ก หน่วยบ้านแสนสุข เรื่องการปฏิบัติตามข้อตกลง

วัน...................เดือน.......................................พ.ศ. ......... เวลา…….นาที


มาตรฐานการเรียน/ตัวชี้วัด

มาตรฐานการเรียนรู้

ตัวชี้วัด



จุดประสงค์การเรียนรู้สู่ตัวชี้วัด

1. นักเรียนสามารถเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ของร่างกายตามจังหวะดนตรีได้อย่างอิสระ

2. นักเรียนสามารถฟังและปฏิบัติตามสัญญาณได้

3. นักเรียนสามารถปฏิบัติตามข้อตกลงได้

สาระสำคัญ

กิจกรรมการเคลื่อนไหวและจังหวะเป็นการพัฒนาการประสานสัมพันธ์ของกล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็ก

การฟังและการปฏิบัติตามสัญญาณและการปฏิบัติตามข้อตกลง

สาระการเรียนรู้

1. สาระที่ควรรู้

การเคลื่อนไหวร่างกายโดยการฟังและปฏิบัติตามสัญญาณ และการปฏิบัติตามข้อตกลง

2. ประสบการณ์การสำคัญ

2.1 การทรงตัวและการประสานสัมพันธ์ของกล้ามเนื้อใหญ่

การเคลื่อนไหวอยู่กับที่และการเคลื่อนไหวเคลื่อนที่

2.2 เวลา

การเริ่มต้นและหยุดกระทำโดยสัญญาณ

2.3 การคิด

การรู้จักสิ่งต่าง ๆ โดยการฟัง

2.4 ดนตรี

การแสดงปฏิกิริยาโต้ตอบเสียงดนตรี

2.5 สุนทรียภาพ

การแสดงออกอย่างสนุกสนานกับเรื่องราว

ชิ้นงานหรือภาระงาน

การเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ของร่างกายกายโดยการฟังและปฏิบัติตามสัญญาณ และการปฏิบัติตามข้อตกลง

คำถามท้าทาย

นักเรียนจะเคลื่อนไหวร่างกายให้พร้อมกันได้อย่างไร

กิจกรรมการเรียนรู้

1. เด็กเคลื่อนไหวร่างกายอย่างอิสระตามจังหวะเสียงดนตรี เมื่อได้ยินสัญญาณหยุดให้หยุดในท่านั้นทันที

2. กำหนดสถานที่ในบริเวณที่ใช้ฝึก 2 แห่ง เป็นบ้าน 2 หลัง เช่น บ้านไม้ บ้านที่สร้างด้วยใบไม้

3. ตกลงสัญญาณกับเด็กดังนี้

- สัญญาณ “กลอง“ ให้เดินไปที่บ้านไม้

- สัญญาณ “ ตบมือ “ ให้เดินไปที่บ้านที่สร้างด้วยใบไม้

ความรู้ฝังแน่น

นักเรียนสามารถบอกได้ว่าการเคลื่อนไหวร่างกายให้พร้อมกันต้องใช้การฟังและปฏิบัติตามสัญญาณ

การจัดบรรยากาศเชิงบวก

เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ทำกิจกรรม แสดงความคิดเห็นและการตอบคำถามโดยอิสระ ครูเสริมแรงด้วยคำชม

สื่อและแหล่งการเรียนรู้

1. เสียงดนตรี

2. เครื่องเคาะจังหวะ

การวัดผลและประเมินผล

วิธีการวัดผลและประเมินผล

-สังเกตการเคลื่อนไหวส่วนต่างของร่างกาย

-สังเกตกาการปฏิบัติตามสัญญา

-สังเกตการปฏิบัติตามข้อตกลง

เครื่องมือ

- แบบสังเกต

หมายเหตุ นำเสนอเป็นแนวทางเท่านั้น สามารถปรับได้ตามบริบทของโรงเรียน

วันพุธที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2553

โครงงานเรื่อง สับปะรด

ระยะที่ 1 เริ่มต้นโครงการ
หัวเรื่อง สับปะรด
เกิดจากการเรียนรู้หน่วยอาหารดีมีประโยชน์ คุณครูได้นำผลไม้ชนิดต่าง ๆ มาให้เด็กได้ร่วมสังเกต และร่วมสนทนาเกี่ยวกับรสชาติของผลไม้

น้องเป : หนูชอบกินผลไม้ทุกอย่างเลยค่ะ
น้องโฟล์ค : โฟล์คชอบกินสับปะรด
น้องชมพู่ : แต่ทำไมเวลากินสับปะรดทำไมมันแสบลิ้น
น้องไซม่อน : ก็มันกัดลิ้น
น้องแอนนี่ : มันเปรี้ยวค่ะ
น้องเป : มันมีกรด
น้องเฌอ : ไม่มีหรอกสับปะรดจะมีกรดได้ยังไง
คุณครู : ถ้าอย่างนั้นเราค้นหาคำตอบกันดีกว่านะคะ



ระยะที่ 2 พัฒนาโครงการ
กำหนดปัญหา
จากการตั้งคำถามของเด็ก ๆ ทำไมสับปะรดจึงกัดลิ้น และได้มีเด็กตอบว่าเพราะสับปะรดมีกรด จากนั้นช่วยกันคิดสับปะรดมีกรดจริงหรือไม่ โดยใช้ความรู้เดิมจากการที่ได้เด็กได้ทดลองทาน คุณครูรับฟัง และแนะนำกระดาษลิตมัส พร้อมทั้งอธิบายคุณสมบัติของกระดาษลิตมัสคือ เปลี่ยนสีกระดาษลิตมัสจากสีน้ำเงิน เป็นสีแดง หลังจากนั้นจึง ร่วมวาดภาพจากความรู้เดิมและจากการสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้น



ทดสอบสมมติฐาน
แบ่งนักเรียนเป็น 2 กลุ่ม

กลุ่มที่ 1 ทดสอบกระดาษลิตมัสกับแตงโม

น้องเอิร์ธ : สับปะรดมันยังเป็นชิ้นอยู่เลย
น้องไอวี่ : ต้องทำให้มันเละ ๆ ก่อน
น้องแอนนี่ : ให้น้ำมันออกมาเยอะ ๆ จะได้จุ่มกระดาษได้
น้องเฌอ : กระดาษไม่เปลี่ยนสีเลย
น้องเปล : จริงด้วยกระดาษไม่เปลี่ยนสีเลย





กลุ่มที่ 2 ทดสอบกระดาษลิตมัสกับสับปะรด

น้องมายด์ : ต้องทำให้สับปะรดมีน้ำก่อน
น้องชมพู่ : ทำให้มีน้ำเยอะ ๆ
น้องเพริ์ช : เอาจุ่มลงไปให้เปียกให้หมด
น้องข้าวโพด : เริ่มเปลี่ยนสีแล้ว
น้องไซม่อน : เปลี่ยนสีแล้ว
น้องโฟล์ค : กลายเป็นสีแดงแล้ว





ระยะที่ 3 รวบรวมสรุป

จากการที่ทำการทดลองกรดในสับปะรด และ หากรดในแตงโม เด็ก ๆ ทราบว่า ในสับปะรดซึ่งมีรสเปรี้ยวมีกรดอยู่จริง เพราะ สับปะรดเปลี่ยนสีกระดาษลิตมัสจากสีน้ำเงิน เป็นสีแดง แต่ในแตงโม ซึ่งมีรสหวาน ไม่มีกรดเพราะกระดาษลิตมัสไม่เปลี่ยนสี




วันที่จัดทำโครงการ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2551
วันสิ้นสุดโครงการ เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2551
โครงงาน
Project Approach
เรื่อง แก้วมังกร
โรงเรียนแย้มสอาดรังสิต

ผู้รับผิดชอบ
ครูมันทนา บุญสร้อย
ครูธีรนุช พรมเพียงช้าง
ระดับชั้นอนุบาล 3/5



ระยะที่ 1 เริ่มต้นโครงงาน
หัวเรื่อง แก้วมังกร
เกิดจากการเรียนรู้หน่วย “อาหารดีมีประโยชน์” ครูได้นำอาหารหมู่ต่าง ๆ มาให้เด็ก ๆ ดู และสนทนาร่วมกันถึงคุณค่าและสารอาหารของผลไม้ต่าง ๆ นักเรียนสนใจแก้วมังกรที่มีสีม่วงเข้ม

สนทนาถึงแก้วมังกร
น้องใบเตย : คุณแม่เคยซื้อมาให้ทาน ทานแล้วอร่อยดี
น้องณัท : เวลากินสีมันจะติดลิ้น
น้องม่อน : แม่เราซื้อแก้วมังกรที่ตลาดเอซี
น้องมะปราง :กินแก้วมังกรแล้วอร่อยดี
น้องฟ้าใส : กินแล้วปากจะมีสีชมพู
น้องแพร : สีของแก้วมังกรนำไปทำอะไรได้บ้างคะ
ครูมันทนา : ถ้าอย่างนั้นเรามาค้นหาคำตอบกันดีกว่านะคะ




ระยะที่ 2 พัฒนาโครงงาน
กำหนดปัญหา
จากการตั้งคำถามของเด็ก ๆ แก้วมังกรนำไปทำอะไรได้บ้างแล้วทำขนมได้หรือเปล่า จากนั้นช่วยกันคิดว่าน้ำของแก้วมังกรทำอย่างไรโดยใช้พื้นความรู้จากการที่ได้ทดลองทาน ครูรับฟังและให้เด็กวาดภาพจากความรู้เดิมและการสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้น




ทดสอบสมมุติฐาน
แบ่งนักเรียนเป็น 2 กลุ่ม

กลุ่มที่ 1 ตำแล้วจะได้น้ำของแก้วมังกรหรือเปล่า
น้องแพร : ล้างแก้วมังกรให้สะอาด
น้องมินต์ : ปอกเปลือกก่อน
น้องหยก : ใส่ครกตำได้เลย
น้องฟ้า : มีน้ำของแก้วมังกรจริง ๆ ด้วย
น้องฟ้าใส : เอาไประบายสีดอกไม้ได้หรือเปล่าคะ



กลุ่มที่ 2 ทดลองทำขนมที่ทำจากแก้วมังกร (ขนมบัวลอย)
น้องมายด์ : เราชอบทานขนมบัวลอย
น้องแพร : เราเคยช่วยคุณแม่ทำขนมบัวลอย
คุณครู : เราช่วยกันบอกการทำขนมบัวลอยดีกว่านะคะ
คุณครู : ต้องใช้แป้งข้าวเหนียว
น้องฟ้าใส : ใส่แก้วมังกรผสมกับแป้ง
น้องแพร : นวดให้เข้ากัน แล้วปั้นเป็นลูกกลม ๆ ต้มน้ำกระทิใส่น้ำตาล ,เกลือป่น
แล้วใส่แป้งกลม ๆ ลงไป
น้องม่อน : เห็นเมล็ด ดำ ดำ ของแก้วมังกรด้วย
น้องฟ้าใส : อร่อยจังเลย




ระยะที่ 3 รวบรวมสรุป
- จากการที่ได้ทำการทดลอง น้ำของแก้วมังกรนำไประบายสีแทนสีน้ำได้ภาพที่สวยงาม
- เด็ก ๆ ทานขนมร่วมกันและมีความคิดเห็นที่เหมือนกันว่าแก้วมังกร เมื่อนำไปผสมแป้งทำบัวลอยสามารถรับประทานได้
ผลจากการทำโครงงานในครั้งนี้ทำให้นักเรียนและครูทราบว่าแก้วมังกรสีม่วงเข้มสามารถนำน้ำมาใช้เป็นสีระบายภาพได้ และนำมาทำเป็นส่วนผสมของขนมได้จึงทำให้นักเรียนสามารถตอบคำถามได้ว่าแก้วมังกรนำไปทำอะไรได้บ้าง
ประโยชน์ที่ได้รับ
- สามารถนำไปใช้ในการเรียนการสอนวิชา ศิลปะ วิชาสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิต
- เป็นตัวเลือกในการที่จะใช้สีจากธรรมชาติ




วันที่จัดทำโครงงาน เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2551
วันที่สิ้นสุดโครงงาน เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2551

การพัฒนากล้ามเนื้อมือ โดยลากเส้นตามรอยประ

แบบฟอร์มการทำวิจัยแบบง่าย ๆ
ชื่อเรื่อง การพัฒนากล้ามเนื้อมือ โดยลากเส้นตามรอยประ
ชื่อเรื่อง นาง สุนิตรา สุขขุม นางสาว คนางค์ รอดเกลี้ยง
สภาพปัญหา
จากการเรียนการสอนในระดับอนุบาล 1/6 ซึ่งมีอายุอยู่ระหว่าง 3-4 ปี จำนวนเด็กนักเรียนทั้งหมด 24 คน นักเรียนในวัยนี้ต้องมีการพัฒนาทั้งสี่ด้านไปพร้อม ๆ กัน แต่ก็มีนักเรียน บางคน ที่มีการพัฒนาการกล้ามเนื้อมือไม่แข็งแรง
ปัญหาการวิจัย
นักเรียนมีพัฒนากล้ามเนื้อมือไม่แข็งแรง 4 คน
เป้าหมายการวิจัย
นักเรียนทั้ง 4 คน มีพัฒนากล้ามเนื้อมือแข่งแรง
วีธีการวิจัย
1. นักเรียนลงมือทำแบบฝึกหัดลากเส้น โดยทำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยมีฝึกลากเส้นถึง 12 ครั้ง
2. มอบหมายงานให้กับ ด.ช. ณัฐวัตร ด.ช. กณิน ด.ช.คณาธิป และ ด.ญ. เบญญทิพย์ และกระตุ้น นักเรียนให้กำลังใจ
3. เสริมแรงด้วยการชมเชยส่วนตัวละชมเชยในชั้นเรียน
4. สังเกตพฤติกรรมการปฏิบัติงาน และความรับผิดชอบของนักเรียนทั้ง 4 คน
5. เมื่อครบ 12 สัปดาห์ นำข้อมูล จากทำแบบฝึกหัดลากเส้น มาวิเคราะห์
6. สรุปผล และเขียนรายงาน
การวิเคราะห์ข้อมูล
วิเคราะห์ข้อมูลจากผลงาน การบังคับกล้ามเนื้อมือในแบบการลากเส้น ของนักเรียนทั้ง 4 คน นำมาเปรียบเทียบ สรุปจากผลงานนักเรียนมีแนวโน้ม พัฒนาการ กล้ามเนื้อมือแข็งแรงมากขึ้น
ช่วงเวลาดำเนินการ
มอบหมายงาน 4 ก.ค. 2550
นักเรียนทำ แบฝึก สัปดาห์ละครั้งจาก 4 ก.ค. – 10 ก.ย.
ผลการวิจัย
1. ด.ช. ณัฐวัตร ด.ช. กณิน ด.ช. คนาธิป ด.ญ. เบญญทิพย์ มีกล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น
2. สิ่งที่สังเกตได้ว่า ส่งผลต่อการพัฒนากล้ามเนื้อมือ
2.1. แบบฝึกหัดลากเส้น
2.2. การให้คำแนะนำ และการกระตุ้น
2.3. การได้รับคำชมเชยจากครู และเพื่อน ๆ จากการทำแบบฝึกหัดลากเส้น

เพลงเด็ก

เพลงจันทร์เอ๋ยจันทร์เจ้า

จันทร์เอ๋ยจันทร์เจ้าขอข้าวขอแกง
ขอแหวนทองแดงผูกมือน้องข้าขอช้างขอม้าให้น้องข้าขี่
ขอเก้าอี้ให้น้องข้านั่ง ขอเตียงตั้งให้น้องข้านอน
ขอละครให้น้องข้าดู ขอยายชูเลี้ยงน้องข้าเถิด
ขอยายเกิดเลี้ยงตัวข้าเอง


สวัสดีวันนี้พบกัน
สุขใจจังฉันได้พบเธอ
โอลัลลา ลัลลัลลา ลัลลา
โอลัลลา ลัลลัลลา ลัลลา



ตบมือ แปะๆ ลูกแพะ อยากกินนม
นมไม่หวาน เอาน้ำตาลเข้าใส่
อร่อยๆ จิงๆ


จะข้ามถนน ต้องข้ามตรงทางม้าลาย
สัญญาณไฟเขียวต้องหยุดให้รถผ่านไป
เราจะข้ามได้ ต้องรอไฟแดงสัญญาณ


ผึ้งน้อย

หึ่ง...หึ่ง..หึ่ง...ผึ้งน้อยบินหารัง หึ่ง...หึ่ง...หึ่ง...ผึ้งน้อยบินหารัง ผึ้งน้อยจ๋า ผึ้งน้อยจ๋า เจ้าบินหาอะไร เจ้าบอกเร็วไว ฉันบินหารัง


ผลไม้นั้นมีหลายอย่าง อะไรบ้างมาลองชิมดู ชมพู่นั้นสีเขียว ลูกนิดเดียวไม่ใหญ่ไม่โต แตงโมนั้นลูกกลมๆ เหมือนกับส้มและพุทรา ผิดขรุขระเค้าเรียกน้อยหน่า ข้างในนั้นหนาสีขาวนุ่มนวล ลูกสีแดงและสีขนเราทุกคนเรียกว่าเงาะ เจ้านั้นเรียกมะละกอ เพราะว่ามันลูกยาวรี ทุเรียนข้างนอกมีหนาม ดูสวยงามและแปลกตา สัปรดเจ้านั้นหนาเจ้ามีตาอยู่รอบตัว ผลไม้มีวิตามินเมื่อกินแล้วมีคุณค่า เด็กๆ จงอย่ารอช้าเร็วๆ รีบมากินผลไม้กัน


มะเขือเทศสีเขียวช่างถาม วันหนึ่งเกิดความสงสัย มะเขือเทศนั้นดีอย่างไร ทำไมเด็กๆ ชอบกิน มะเขือเทศสีแดงรีบตอบ ในตัวเรามีวิตามิน เราช่วยทำให้ผิวสวย เด็กๆ จึงได้ชอบกิน


ดวงจันทร์ถามเจ้ากระต่าย กินอะไรถึงกระโดดเก่งจัง กระต่ายน้อยตอบเร็วทันใด กินแครอทสีส้มของดี กระต่ายน้อยกระโดดไปไกลๆ กระโดดไปไกลถึงดวงจันทร์


วันนี้วันเด็ก พวกเราดีใจ ที่จะได้ไปท่องเที่ยวผักผ่อน คุณแม่คุณพ่อ พาฉันกับน้อง ได้ไปเที่ยวท่อง ทะเลสีคราม มีน้ำมีฟ้า มีปลามีคลื่น พวกเราสดชื่นเล่นน้ำทะเล และเล่นกองทรายปีนป่ายก้อนหิน ลมทะเลเล่นแข่งเรือใบ สนุกสุขใจในวันแสนเพลิน


มดตัวน้อยตัวนิด มดตัวน้อยตัวนิด
มด มีฤทธิ์น่าดู น่าดู
เร็วเรามากันหน่อย ไวเราไปกันหน่อย ยู้ฮู ยู้ฮู


เพลงล้างมือ

ล้างมือก่อนซิ ล้างมือก่อนซิ
ของกินดีดีอย่ารีบหยิบกิน
มือเปื้อนเปรอะเลอะเทอะฝุ่นดิน
จะหยิบกินต้องล้างมือก่อน


เพลง วันหยุด

เสาร์ อาทิตย์
ฉันคิดเธอ ฉันนอนละเมอ
หัวใจไหวหวั่น
จากกันไป เมื่อไหร่จะพบกัน
พอถึงวันจันทร์เราก็พบกันใหม่


หมู ๆ ๆ น้องเคยเห็นหมูรึเปล่า
หมูมันตัวโตไม่เบา
ผัดเผ็ดกระเพาะอร่อยดี(ซ้ำทั้งประโยค)
กินหมูทุกวันอ้วนพี


หนึ่งสองสามสี่ หนึ่งสองสามสี่ ห้าหกเจ็ด ห้าหกเจ็ด อีกทั้งแปดและเก้าสิบ อีกทั้งแปดและเก้าสิบ
ดึง ดึ่ง ดึง ดึง ดึ่ง ดึง


เพลงจำจี้ผลไม้

จ่ำจี้ผลไม้ แตงกวา แตงไทย ขนุน น้อยหน่า พุทธา มังคุด ละมุด ลำไย มะเฟือง มะไฟ มะกรูด มะนาว มะพร้าว ส้มโอ
ฟักแฟง แตงโม ไชโย โห่ฮิ้ว


จ่ำจี้มะเขือเปราะ กระเทาะหน้าแว่น พายเรืออกแอ่น กระแทกต้นตุ่ม สาวๆหนุ่มๆ อาบน้ำท่าไหน อาบน้ำท่าวัด
เอาแป้งที่ไหนผัด เอากระจกที่ไหนส่อง เยี่ยมๆมองๆ นกขุนทองร้องฮู้


เพลงรถตุ๊กตุ๊ก

รถตุ๊กตุ๊ก บรรทุกถ่าน
ขึ้นลงสะพาน ขึ้นลงสะพาน
มันชักกระตุก กระตุ๊ก กระตุก


มดตัวน้อยตัวนิด มดตัวน้อยตัวนิด
มดมีฤทธิ์น่าดู ยู้ฮู
มาไวไวกันหนอย มาเร็วเร็วกันหน่อย ยู้ฮู ยู้ฮู
ยู้ วววว ฮู้

Are you sleeping?
Are you sleeping?
Brother John, Brother John
Morning bells are ringing.
Morning bells are ringing.
Ding Ding Dong
Ding Diing Dong

จันทร์เอ๋ยจันทร์เจ้า ขอข้าวขอแกง ขอแหวนทองแดงผูกมือน้องข้า ขอช้างขอม้า ให้น้องข้าขี่ ขอเก้าอี้ให้น้องข้านั่ง ขอเตียงตั้งให้น้องข้านอน ขอละครให้น้องข้าดู ขอยายชูเลี้ยงน้องข้าเถิด ขอยายเกิดเลี้ยงตัวข้าเอง

อย่าทิ้งขยะนะเออ ลูกเป็ดเค้าเจอเดี๋ยวเค้าดุเอา
อย่าทิ้งขยะนะเรา ลูกเป็ดเห็นเข้าบ่นกั๊น พึมพัม
ก๊าบ ก้าบ ก้าบ ก้าบ ก้าบ
ก๊าบ ก้าบ ก๊าบ ก้าบ ก้าบ

โรงเรียนของเราน่าอยู่ คุณครูใจดีทุกคน เด็กๆก็ไม่ซุกซน พวกเราทุกคน ชอบไปโรงเรียน ชอบไป ชอบไปโรงเรียน”
อัน นี้เด็กร้องอาจจะโดนคุณครูตีได้ "โรงเรียนของเราน่าอยู่ คุณครูใจดีทุกคน เด็กๆก็ชอบซุกซน พวกเราทุกคนชอบเปิดกระโปรงครู ชอบเปิด ชอบเปิดกระโปรงครู

บนท้องฟ้านกกาโบยบิน เช้าออกหากิน เย็นกลับมารัง
นกการ้องเสียงก้องชวนฟัง มันร้องเสียงดังทั่วป่า
จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ เสียง จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ
กา กา กา เสียง กา กา กา
กุ๊ก กุ๊ก กุ๊ก เสียง กุ๊ก กุ๊ก กุ๊ก
กา ก้า ก่า กา กุ๊กกู

เพลงกบ
อบ อ้บ อ้บ อ้บ เสียงอ้บฟังแต่ไกล
ไป ไป เราไป โดดไปให้เหมือนดังกบ
โดดลงรู เมื่อเห็นศัตรูรีบหลบ
เมื่อฝนตก มันร้องอ้บ อบ
อ้บ อบ อบ อบ ไปทั่วท้องนา

เพลงกระต่ายหูยาว
กระต่ายสีขาว มีหูยาวเรียว
หางสั้นนิดเดียว ตาแดงแวววาว
กระโดดเล่นชมแสงจันทร์สกาว อยู่ราวริมป่าดูน่ารักเอย

เพลงควาย
ควาย ควาย ควาย ฉันเห็นควายอยู่กลางทุ่งนา
อาหารของควายคือหญ้า ใช้ไถนาให้ข้าวเรากิน

จับจิ้งจก

จับจิ้งจก จับจิ้งจกมาให้นกกิน
นกเจ้าก็บิน เจ้าก็บิน มากินจิ้งจก
หนาว หนาว หนาว หน้าหนาวมายืนกอดอก
หัวใจของน้องวังเวง หัวใจของน้องวังเวง
มายืนร้องเพลงเวลาฝนตก

ิอึ่งอ่าง

อึ่งอ่างมันนั่งข้างโอ่ง
มันนั่งหลังโก่ง คอยจับกินมด
เด็กเอ๋ยเจ้าอย่าพูดปด
เด็กเอ๋ยเจ้าอย่าพูดปด
จะเหมือนดั่งมดเป็นเหยื่ออึ่งอ่าง

จับปูดำ

จับปูดำ ขยำปูนา จับปูม้า คว้าปูทะเล
สนุกจริงเอย แล้วเลยนอนเปล
จะโอละเห นอนเปลให้หลับไป


เพลง เจ้ากบ

เจ้ากบตัวน้อย น้อย กระโดด
เจ้ากบตัวน้อย น้อย กระโดด
เจ้ากบอย่าได้มัวรอช้า เร็ว เร็ว รีบมา เร็วเร็ว ไวไว
เร็วเร็ว เข้าซี เร็วเร็ว เข้าซี อย่าได้มัว รอรี รีบมา
ลา ลั๊นลา ลันลา ลันล่ะ ลา ลั๊นลา ลันลา ลันล่ะ
สนุกสุขใจแสนเพลิน


นี่หัว นี่ไหล่
ยื่นออกไปก็เรียกว่าแขน
อันแบนๆ เรียกว่าสะโพก
เอาไว้โยก ซิมบะ ซิมบะ


ตบมือแปะ ๆๆ

ตบขาปัง ๆๆ
ลุกขึ้นยืนแล้วนั่ง
ลุกขึ้นยืนแล้วนั่ง
ตบขาปังๆ
ตบมือแป ะๆ


ผนตกแดดออก นกกระจอกบินมาเข้ารัง
ตาอินกับตานา หาปลากับมาหรือยัง
พวกหนูหิวจัง ตาจ๋ากับมาไวไว


ก้าบ ก้าบ ก้าบ เป็ดอาบน้ำในคลอง
ตาก็จ้องแลมอง เพราะในคลองมี หอย ปู ปลา
ก้าบ ก้าบ ก้าบ เป็ดอาบน้ำในคู
ตาก็จ้องแลดู เพราะในคูมี หอย ปู ปลา


เพลงภาษาเหนือ

สิกกุ่งกู่ ปู่หน้าแข้ง แข้งขาสุก ปลาดุกเนา หัวเข่าปม หัวนมเปรี้ยว สิกจะริ้ว ลงนำแม่ป๋อม สาวหีหลวง ปันฝ้ายโว้โหวด
ยายเราร้องให้ฟังตอนเด็ก


กุ๊ก กุ๊ก ไก่ เลี้ยงลูกมาจนใหญ่ ไม่มีนมให้ลูกกิน ลูกร้อง เจี๊ยบ เจี๊ยบ แม่ก็เรียกมาคุ้ยดิน ทำมาหากินตามประสาไก่เอย


ชื่อของเธอฉันไม่รู้จัก
คุณครูทักนักเรียนเข้าใหม่
ชื่อของเธอฉันจำไม่ได้
ชื่ออะไรช่วยบอกฉันที....